Review กล้องถ่ายภาพความร้อน FLIR รุ่น FLIR C2 Thermal Imaging Camera
เลือกอ่านเฉพาะหัวข้อ..คลิ๊ก!
◼ Features ของ FLIR C2
◼ การถ่ายภาพและบันทึกภาพความร้อน
◼ การวิเคราะห์ภาพ
◼ การตั้งค่าภาพและการเก็บข้อมูล
◼ การใช้งานร่วมกับ FLIR Tools Software
◼ บทสรุป
◼ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
สำหรับท่านที่ทำงานในสายงานของตรวจสอบ เช่น ตรวจสอบโครงสร้างภายใน, ระบบไฟฟ้า, ระบบเครื่องจักร การทำฉนวนกันความร้อน/ความเย็น
ในปัจจุบันนี้ คงไม่มีท่านไหนที่ไม่รู้จักเครื่องมือวัดที่เรียกว่า กล้องถ่ายภาพความร้อน, เทอร์โมสแกนเนอร์ หรือ ในภาษาอังกฤษเรียกว่า “เทอร์มอล อิมเมจจิ้ง คาเมร่า: Thermal Imaging Camera” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ตรวจสอบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย นอกจากนี้ประเภทงานที่ได้กล่าวมาข้างต้น กล้องถ่ายภาพความร้อน ยังได้ถูกพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ในรูปแบบอื่น เช่น การใช้งานในชีวิตประจำ ด้านการรักษาความปลอดภัย การอนุรักษ์สัตว์ป่า การประมงค์ การเดินเรือ การสงคราม และ อื่นๆ ซึ่งคาดว่าหากมีโอกาสเราจะได้มาพูดคุยกันในครั้งต่อไป
กล้องถ่ายภาพความร้อน ที่เราจะมาให้ท่านได้ดูในวันนี้ จัดว่าเป็นเป็นโมเดลที่มีความโดดเด่นพอสมควร เพราะนับว่าเป็นการฉีกแนวของกล้องถ่ายภาพความร้อนที่เราเคยใช้งานกันเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ดีก็นับว่าเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานหลายท่าน ได้รอคอยให้มีกล้องถ่ายภาพความร้อนลักษณะแบบนี้ออกมา ซึ่งในที่สุดก็ได้ออกมาสู่ท้องตลาดโดยมีการเปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2015 ในงาน CES (Consumer Technology Association) โดยใช้ชื่อรุ่นว่า “FLIR C2” นับว่าเป็นกล้องถ่ายภาพความร้อนรุ่นที่ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับรุ่นยอดนิยม Ex-Series ที่มาในขนาดกระทัดรัด พกพาง่าย และมีรูปทรงรวมถึงลักษณะการบันทึกภาพคล้ายกล้องถ่ายภาพดิจิตอลทั่วไป ซึ่งในลำดับต่อไป เราจะมาดูภายในกันดีกว่าว่า “FLIR C2” นั้นมีคุณสมบัติที่โดดเด่นอะไรบ้าง
Features ของ FLIR C2:
เริ่มกันด้วยเรื่องของ คุณลักษณะเด่นของ FLIR C2 กันเลย ถ้าเริ่มจากการดูที่รูปลักษณ์ภายนอก เรื่องแรกคงหนีไม่พ้น ขนาดและน้ำหนักของเครื่องนี้ FLIR C2 นั้นมีน้ำหนักเพียง 130g. เท่านั้น โดยเมื่อเทียบกับกล้องถ่ายภาพความร้อน ขนาดพกพารุ่นเดิม เช่น FLIR TG165/TG167 แล้ว พบว่า FLIR C2 มีขนาดเบากว่าถึงประมาณ 2 เท่าตัว.(TG165/TG167 น้ำหนักประมาณ 312 g) หรือเมื่อเทียบกับรุ่น Ex-Series (E4,E5,E6 และ E8) ก็พบว่า FLIR C2 นั้นก็มีน้ำหนักที่เบากว่าถึง 4 เท่า. (Ex-Series น้ำหนักประมาณ 575 g) ซึ่งแน่นอนว่า นอกจากน้ำหนักที่เบากว่าแล้ว รูปทรงของ FLIR C2 นั้นก็ออกแบบมาให้ถูกเรียกว่าขนาดพกพาอย่างแท้จริง โดยมี ขนาดอยู่ที่ ยาว*กว้าง*สูง คือ 125*80*24 มิลลิเมตร เท่านั้น หรือนึกภาพตามกันง่ายๆ คือ ขนาดประมาณ ไอโฟน 4S จึงทำให้ FLIR C2 นั้น สามารถ พกใส่ได้ในกระเป๋ากางเกง หรือ กระเป๋าเสื้อ โดยไม่จำเป็นต้องมี Case ที่ต้องถือเหมือนกับรุ่นอื่น แถมมาพร้อมกับสายคล้องข้อมือ/คล้องคอ ช่วยให้ง่ายต่อการพกพาและป้องกันการตกในระว่างการใช้งาน นอกจากนี้ FLIR C2 ยังมีหน้าจอแสดงผลขนาด 3 นิ้ว ที่ความละเอียด 320 x 240 พิกเซล ซึ่งเป็นขนาดหน้าจอและความละเอียดที่เทียบเท่ากับรุ่นของ Ex-Series แต่จุดที่เป็นจุดเด่นก็คือ FLIR C2 เป็นหน้าจอ แบบสัมผัส และ มีระบบการปรับมุมมองได้โดยอัตโนมัติ (Auto Orientation) ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่โดดเด่นมากกว่ารุ่นขนาดพกพาที่เคยมีมาเลยทีเดียว
ขนาดที่พกพาได้สะดวกขึ้นของ FLIR C2 |
FLIR C2 มาพร้อมกับจอสัมผัส ขนาด 3 นิ้ว |
|
|
เปรียบเทียบขนาดของ FLIR C2 กับ Smartphone แสดงให้เห็นถึงความสะดวกในการพกพา |
ที่นี้มาเจาะลึกลงไปถึง คุณลักษณะ หรือ Specifications ของ FLIR C2 แต่ละด้านกัน ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
การถ่ายภาพและบันทึกภาพความร้อน
สำหรับกล้องถ่ายภาพความร้อน FLIR C2 นั้น รูปแบบการถ่ายภาพนั้นจะแตกต่างกับกล้องถ่ายภาพความร้อนทั่วไป ที่มีลักษณะคล้ายปืน คือ มีไกเหนี่ยวเพื่อทำการวัดอุณหภูมิและบันทึกภาพ แต่กล้องถ่ายภาพความร้อน FLIR C2 นั้น ลักษณะการถ่ายภาพ จะเหมือนกับกล้องดิจิตอลทั่วไป ซึ่งนับว่าเป็นจุดเด่นของ FLIR C2 นอกจากนี้ ภายในระบบของ FLIR C2 นั้น ประกอบด้วย IR Sensor ที่มีความละเอียดที่ 80 x 60 พิกเซล (4800 พิกเซล), Field of View (FOV) อยู่ที่ 41º x 31º จัดได้ว่ามีมุมในการวัดที่ดีกว่ารุ่น TG165 มาก และ ดีกว่า Ex-series อยู่เล็กน้อย ในส่วนของฟังก์ชั่นที่มากับ FLIR C2 อีกก็คือ การบันทึกภาพ แบบกล้องดิจิตอล โดยความละเอียดอยู่ที่ 640 x 480 พิกเซล แบบ Fixes Focus และยังมี ฟังก์ชั่น Video Streaming ผ่าน FLIR Tool Software ได้อีกด้วย
ตารางเปรียบเทียบ คุณสมบัติต่างๆของ FLIR: Ex-Series | คุณสมบัติของ FLIR C2 เมื่อดูแล้วจะพบว่า ใกล้เคียงกับ E4 มาก |
มาดูในส่วนของฟังก์ชั่นการถ่ายภาพความร้อน ที่เป็นจุดเด่นของ FLIR นั่นคือ ฟังก์ชั่น MSX (Multi-Spectral Dynamic Imaging) ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นของการผสานภาพความร้อน และ ภาพจากกล้องดิจิตอล ทำให้ได้ภาพความร้อนที่มีรายละเอียดชัดเจน ช่วยให้ผู้ใช้งานมีความสะดวกขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า FLIR C2 นั้นมาพร้อมกับฟังก์ชั่น MSX ด้วย จึงทำให้ FLIR C2 สามารถใช้ในงานตรวจสอบที่ต้องการความละเอียด หรือการจำแนกงานต่างๆได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งถ้าเทียบกันกับ Ex-Series (รุ่นที่มีฟังก์ชั่น MSX เหมือนกัน) คือ รุ่น E4 ก็จะพบว่า คุณสมบัติในเรื่องของการบันทึกภาพความร้อนนั้น เรียกได้ว่าไม่แตกต่างกันเลย จะมีจุดที่แตกต่างก็คือ FLIR C2 จะมีช่วงการวัดอุณภูมิที่ -10ºC ถึง + 150ºC (FLIR C2 มีค่า Accuracy อยูที่ ±2% หรือ ±2ºc) เท่านั้น (Ex-Series มีช่วงการวัดอุณหภูมิอยู่ที่ -20ºC ถึง + 250ºC) อย่างไรก็ตาม ช่วงการวัดอุณหภูมิของ FLIR C2 นั้นก็นับว่าเพียงพอแล้วสำหรับงานในสายการตรวจสอบระบบความร้อนภายใน/ภายนอกอาคาร หรือ ตรวจจับความร้อนจากเครื่องใช้ไฟฟ้าในอาคารบ้านเรือน แต่สิ่งที่พิเศษกว่าของ FLIR C2 ก็คือ เมื่อเทียบราคา กล้องถ่ายภาพความร้อนของ FLIR ที่มีฟังก์ชั่น MSX นั้น FLIR C2 ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่มีราคาถูกกว่ารุ่นอื่นๆอยู่พอสมควร (Ex-Series เริ่มต้นที่ประมาณ 50,000 บาท ในขณธที่ FLIR C2 ราคาประมาณ 30,000 ต้นๆ **ทั้งนี้กรุณาตรวจสอบราคากับฝ่ายขายอีกครั้ง**) จึงจัดได้ว่า FLIR C2 นั้น เป็นกล้องที่มีประสิทธิภาพ ใช้งานสะดวก คล่องตัว ที่มาในราคาที่น่าสนใจมากๆทีเดียว
FLIR C2 กับการตรวจสอบระบบความร้อนภาพใน ดังภาพ แสดงการวัดอุณภูมิที่แตกต่างกันของ หลอดไฟ และ ระบบปรับอากาศภายในอาคาร
|
|
FLIR C2 ที่ใช้สำหรับการวัดความร้อนจากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทำงานตลอดเวลา เช่น เครื่องชงกาแฟ
|
ฟังก์ชั่น MSX (Multi-Spectral Dynamic Imaging) ช่วยให้เราสามารถแยกแยะรายละเอียดของวัตถุที่เราวัดได้อย่างสะดวก |
นอกจากเรื่องของฟังก์ชั่น MSX ที่มาพร้อมกับเครื่อง FLIR C2 แล้วนั้น FLIR C2 นั้นยังประกอบด้วย ไฟ LED ซึ่งสามารถเรียกเปิด/ปิดได้ ทำหน้าที่เป็นได้ทั้งไฟฉาย และ แฟลช ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานในที่มืด
การวิเคราะห์ภาพ
FLIR C2 มีฟังก์ชั่นในการตรวจจับอุณหภูมิหลักๆ ไม่แตกต่างกับกล้องถ่ายภาพความร้อนทั่วไปคือ มี Spotmeter ที่ใช้เป็นตัวบ่งบอกอุณหภูมิ ณ ตำแหน่งที่เราวัด โดยสามารถเลือกที่จะ เปิด/ปิด ได้ผ่านหน้าจอสัมผัส, ฟังก์ชั่น Emissivity Correction ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวัดโดยสามารถเลือกได้ ตามลักษณะพื้นผิววัตถุ ได้แก่ พื้นผิวด้าน/ไม่เงา (Matt), พื้นผิวกึ่งด้าน (Semi-matt), พื้นผิวกึ่งเงา (Semi-Glossy) หรือ สามารถกำหนดค่าคงที่ได้ตั้งแต่ 0.02ε-1.0ε (ดูได้จากตารางค่า Emissivity ของวัตถุ), ฟังก์ชั่น Reflect Temperature ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นเพิ่มความแม่นยำในการวัด โดยเป็นการตั้งค่าอุณหภูมิชดเชยการวัดบนผิวที่มีลักษณะของการดูดซับ/สะท้อนความร้อน
การตั้งค่าภาพและการเก็บข้อมูล
FLIR C2 มีฟังก์ชั่นในการเปลี่ยนสีภาพ (Color Palettes) ได้ 4 แบบ คือ Iron, Rainbow, Rainbow HC (High Contrast), Gray ซึ่งแต่ละแบบจะลงตัวกับการถ่ายภาพที่แตกต่างกันออกไป และ สามารถเลือก สีภาพอื่นๆได้เพื่อใน FLIR Tools Software
สำหรับการบันทึกข้อมูลนั้น FLIR C2 เป็นการเก็บข้อมูลภาพในเครื่อง ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลภาพแบบ Radiometric (ภาพที่มีการระบุข้อมูลอุณหภูมิไว้ได้ในทุกพิกเซลของภาพ) ได้โดยประมาณที่ 500 ชุด (ภาพจากกล้องดิจิตอล และ ภาพความร้อน) ซึ่งสามารถเรียกดูได้จากเครื่องได้โดยตรง หรือ FLIR Tools Software
การใช้งานร่วมกับ FLIR Tools Software
FLIR Tools Software เป็นโปรแกรมสำหรับการใช้งานร่วมกับกล้องถ่ายภาพความร้อนของ FLIR อยู่แล้ว (มีทั้งแบบดาวน์โหลดได้ฟรี และ แบบที่ทาง FLIR จำหน่าย) FLIR C2 นั้นก็สามารถใช้งานร่วมกับ FLIR Tools ได้เช่นกัน โดยผู้ใช้งาน สามารถ เชื่อมต่อข้อมูลภาพ และ ปรับแต่งภาพที่ได้จาก FLIR C2 ด้วย FLIR Tools Software เช่น การเปลี่ยนสี (Palettes) โดยมีสีให้เลือกเพิ่มขึ้นมากมาย, การเพิ่ม Spotmeter, การเพิ่ม Area (กำหนดพื้นที่ในการวิเคราะห์อุณหภูมิ) ทั้งแบบ สี่เหลี่ยม/วงกลม/เส้น โดยสามารถบอกจุดที่อุณหภูมิ สูงสุด/ต่ำสุด/Delta (ผลต่างอุณหภูมิของจุดที่เราเลือก) และ ค่าเฉลี่ยของพื้นที่นั้นได้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่น Video Streaming ร่วมกับ FLIR C2 เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ปัญหาจากหน้างาน ในกรณีที่ฟังก์ชั่นของ FLIR C2 นั้นไม่เพียงพอ รวมถึง FLIR Tools นั้น มี Report Template ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถที่จะทำเป็นเอกสารรายงานได้อย่างรวดเร็ว นับว่าเป็นโปรแกรมที่สนับสนุนการใช้งานได้อย่างครบเครื่องเลยทีเดียว
ข้อมูลอื่นๆ
FLIR C2 มีการเชื่อมต่อด้วยสาย USB แบบ Micro-B ทั้งในการส่งผ่านข้อมูล และ การชาร์จแบตเตอรี่ โดย แบตเตอรี่ของ FLIR C2 นั้นจะเป็น Li-ion ใช้เวลาชาร์จประมาณ 1.5 ชั่วโมง สำหรับการทำงาน 2 ชั่วโมง โดยสามารถชาร์จได้จากทั้งการต่อ PC หรือ ต่อกับ AC Adapter 90-260 VAC. ที่มาพร้อมกับหัวเปลี่ยนที่ใช้ได้กับทั้ง EU, UK, US, จีน หรือ ออสเตรเลีย นอกจากนี้้ ตัวเครื่องสามารถตั้งเวลาปิดอัตโนมัติได้อีกด้วย
อุปกรณ์ที่มาพร้อมกับเครื่อง
กล้องถ่ายภาพความร้อน(แบตเตอรี่ในตัวเครื่อง), สายคล้องคอ/รัดข้อมือ, สายชาร์จพร้อมหัวเปลี่ยน, สาย USB
บทสรุป
แน่นอนว่าน่าสนใจมากทีเดียว สำหรับ FLIR C2 ที่ออกแบบมาได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งในเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก ที่เหมือนกับสมาร์ทโฟน ลักษณะการบันทึกภาพ เหมือนกับการถ่ายรูปจริงๆ รวมถึงฟังก์ชั่นภายในเครื่องที่น่าประทับใจ ที่ไม่ได้ด้อยไปกว่ารุ่นใหญ่อย่าง FLIR E4 เลย ส่วนตัวผมเองบอกเลยว่าประทับใจในตัว FLIR C2 อยู่พอสมควร จากที่ได้ลองใช้มา พบว่าจุดเด่นหลักๆที่ FLIR C2 ทำออกมาได้ดี คือ การพกพา FLIR C2 เป็นกล้องถ่ายภาพความร้อนที่พกพาไปไหนได้สะดวกจริงๆ โดยเมื่อเทียบกับกล้องถ่ายภาพความร้อนของ FLIR อย่าง TG165 หรือ Ex-Series อย่าง E4 นั้น ความคล่องตัวในการใช้งานจะด้อยกว่า FLIR C2 พอสมควร และ FLIR C2 นั้น สามารถถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นระบบ Free Focus โดยภาพที่ได้มีความคมชัดด้วยฟังก์ชั่น MSX ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่โดดเด่นของ FLIR อยู่แล้ว นับได้ว่า FLIR C2 จะต้องเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำหรับผู้ตรวจสอบ และ ผู้ใช้งานทั่วไป ในสายงานการก่อสร้างอาคาร, วางระบบไฟฟ้า หรือผู้ที่สนใจในเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพความร้อน ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ซึ่งเมื่อดูราคาแล้วนั้น พบว่า ด้วยราคาสามหมื่นต้นๆนั้น เทียบกับประสิทธิภาพของ FLIR C2 นับได้ว่าคุ้มค่าคุ้มราคาอย่างมากจริงๆ
บทความโดย ชัชวาล กิมเห, Product Specialist, LEGA Corporation
รับชม คลิปวีดีโอข้อมูล FLIR C2 จากผู้ผลิต ด้านล่าง
Related Product(s)