เครื่องวัดอุณหภูมิ เทอร์โมมิเตอร์

เครื่องวัดอุณหภูมิ (Temperature Measuring Instruments) เป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในงานอุตสาหกรรมทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นในสายการผลิต ระบบควบคุมคุณภาพ การแปรรูปอาหาร ระบบ HVAC หรือแม้แต่ในงานวิจัยและพัฒนา เครื่องวัดอุณหภูมิมีหน้าที่หลักในการตรวจสอบและติดตามระดับอุณหภูมิ เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องจักร สภาพแวดล้อม หรือผลิตภัณฑ์อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสมและปลอดภัย

ด้วยประเภทและเทคโนโลยีที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบอินฟราเรด (Infrared Thermometer), แบบเทอร์โมคัปเปิล (Thermocouple), RTD, เทอร์มิสเตอร์ (Thermistor) หรือแบบดิจิทัล เครื่องวัดอุณหภูมิแต่ละรุ่นย่อมมีคุณสมบัติ และความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น บางรุ่นเหมาะสำหรับวัดวัตถุที่มีอุณหภูมิสูงโดยไม่ต้องสัมผัส บางรุ่นเน้นความแม่นยำในการวัดระยะยาว และบางรุ่นออกแบบมาเพื่อใช้งานภาคสนามโดยเฉพาะ ดังนั้นเพื่อให้การใช้งานเครื่องวัดอุณหภูมิมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรพิจารณาองค์ประกอบต่อไปนี้

1. ช่วงอุณหภูมิ (Temperature Range)

ผู้ใช้งานควรเลือกให้ครอบคลุมช่วงอุณหภูมิที่ใช้งานจริง โดยควรมีเผื่อค่าความปลอดภัยประมาณ 10–20% ของค่าต่ำสุดและสูงสุด

2. ความแม่นยำ (Accuracy)

ในงานที่ต้องการความเที่ยงตรงสูง เช่น อุตสาหกรรมอาหารหรือยา ควรเลือก Thermometer ที่มีค่าความคลาดเคลื่อนต่ำ เช่น ±0.1°C ถึง ±0.5°C

3. ประเภท (Sensor Type)

- Thermocouple: ทนร้อนสูง วัดได้เร็ว เหมาะกับงานที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว โดยใช้โลหะต่างชนิดกัน 2 เส้นเชื่อมต่อกัน เมื่อจุดเชื่อมสัมผัสกับความร้อน จะเกิดแรงดันไฟฟ้าเล็ก ๆ ซึ่งมีค่าผันแปรตามอุณหภูมิ ทำให้สามารถนำไปคำนวณเป็นค่าความร้อนได้ เหมาะกับงานที่ต้องวัดอุณหภูมิสูงและเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว โดยทั่วไปนิยมใช้ประมาณ 8 ประเภทหลัก

Type K (Chromel–Alumel) -200°C ถึง 1,260°C ใช้งานทั่วไป ทนทาน เหมาะกับงานอุตสาหกรรมทั่วไป
Type J (Iron–Constantan) -40°C ถึง 760°C ให้สัญญาณแรงดันสูงแม้ที่อุณหภูมิต่ำ เหมาะกับงานทั่วไปที่ไม่ร้อนมาก
Type T (Copper–Constantan) -200°C ถึง 370°C แม่นยำสูงในอุณหภูมิต่ำ เหมาะกับห้องเย็นหรือแวดวงอาหาร
Type E (Chromel–Constantan) -200°C ถึง 870°C ให้สัญญาณแรงดันสูงที่สุดในกลุ่ม ใช้ในงานที่ต้องการความละเอียดสูง
Type N (Nicrosil–Nisil) -200°C ถึง 1,300°C ทนการเกิดออกซิเดชันได้ดี เหมาะกับงานในเตาเผา
Type R, S, B (แพลตินัมผสม)

- RTD (Pt100): แม่นยำสูง เหมาะกับงานควบคุมคุณภาพ เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิที่ทำจากโลหะ (เช่น แพลทินัม) ซึ่งมีคุณสมบัติเปลี่ยนค่าความต้านทานตามอุณหภูมิ โดย Pt100 หมายถึง มีค่าความต้านทาน 100 โอห์ม ที่ 0°C ให้ค่าที่แม่นยำและเสถียรมาก เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น ในห้องแลปหรือกระบวนการผลิตที่ต้องควบคุมอุณหภูมิอย่างเข้มงวด.
- Thermistor: เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดแต่ในช่วงอุณหภูมิจำกัด เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิที่ทำจากวัสดุกึ่งตัวนำ ซึ่งค่าความต้านทานจะเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนเมื่ออุณหภูมิเพิ่มหรือลด โดยมีทั้งแบบต้านทานลดลง (NTC) และเพิ่มขึ้น (PTC) เหมาะกับงานที่ต้องวัดอุณหภูมิในช่วงแคบแต่ต้องการความไวและความละเอียดสูง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์การแพทย์.
- Infrared Thermometer (IR) คือเครื่องวัดอุณหภูมิแบบไม่ต้องสัมผัสผิววัสดุ โดยใช้หลักการจับพลังงานรังสีอินฟราเรดที่วัตถุแผ่ออกมาตามระดับความร้อน จากนั้นแปลงเป็นค่าอุณหภูมิ เหมาะกับการวัดพื้นผิวที่ร้อน อันตราย หรือเข้าถึงยาก เช่น ท่อร้อน หรือชิ้นส่วนเครื่องจักร
- Thermal Camera คือกล้องถ่ายภาพความร้อนที่สามารถมองเห็นอุณหภูมิของวัตถุต่าง ๆ ได้ในรูปแบบภาพสี (Thermal Image) โดยอาศัยการจับรังสีอินฟราเรดที่วัตถุแผ่ออกมา แล้วแปลงเป็นภาพแสดงความร้อน เหมาะกับงานตรวจสอบระบบไฟฟ้า เครื่องจักร รั่วซึม หรือจุดร้อนในโรงงานแบบรวดเร็วและไม่ต้องสัมผัส.

4. ความสะดวกในการใช้งาน

- แบบติดตั้งถาวร เหมาะกับระบบควบคุมอัตโนมัติ
- แบบพกพา (Handheld) เหมาะกับงานตรวจเช็คทั่วไป หรือใช้ในการซ่อมบำรุง
- เลือกเครื่องที่มีหน้าจอชัดเจน ใช้งานง่าย บันทึกข้อมูลได้ หรือเชื่อมต่อกับระบบผ่าน USB/Bluetooth

ดังนั้นการเลือก Thermometer สำหรับงานอุตสาหกรรม ไม่ใช่แค่ดูจากราคา แต่ต้องพิจารณาทั้งประเภทของงาน ความแม่นยำที่ต้องการ สภาพแวดล้อม และความสะดวกในการใช้งาน หากเลือกได้เหมาะสม ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ยังช่วยลดความเสียหายและประหยัดต้นทุนในระยะยาว

เลกะ คอร์ปอเรชั่น ของเราจึงได้คัดสรรเครื่องวัดอุณหภูมิคุณภาพสูง จากผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก พร้อมรายละเอียดสินค้า ข้อมูลเชิงเทคนิค และคำแนะนำในการเลือกใช้งาน เพื่อช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องวัดอุณหภูมิที่ตรงกับความต้องการได้อย่างมั่นใจ